14 เม.ย. 2554

จัดการรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า



วิทยาศาสตร์การแพทย์ มีการศึกษาวิจัยอย่างมากมาย
ถึงสาเหตุปัจจัยต่าง ๆ ที่เป็นต้นเหตุของการเสื่อมสภาพของผิวหนังคนเรา นักวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์พบว่าริ้วรอยเหี่ยวย่นของผิวหนังเกิดจากสาเหตุหลัก ๆ 2 ประการ คือ

เกิดจากรังสีดวงอาทิตย์
มีผลทำลายเซลผิวหนังโดยตรง ทำให้ผิวหนังเกิดริ้วรอย แห้ง เหี่ยวย่น ดำคล้ำและหนาหยาบกร้าน

เกิดจากอายุที่มากขึ้น เกิดการเปลี่ยนแปลงของร่างกายภายใน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดลงของฮอร์โมนเพศ ทำให้เซลผิวหนังมีคุณภาพคุณสมบัติเสื่อมลง
ความยืดหยุ่นลดลง การอุ้มน้ำของเซลผิวหนังลดประสิทธิภาพลง
สีผิวซีดลง เพราะเซลสร้างเม็ดสีเสื่อมสภาพ
ผิวหนังบางลง เนื่องจากการสร้างเซลผิวหนังน้อยลง พร้อม ๆ กับกระดูกก็บางลงด้วย

ดังนั้น จะพบว่าอาการเหี่ยวย่นของผิวหนังที่เกิดจากปัจจัยแก่แดดแก่ลม
จะแตกต่างจากการแก่โดยวัยอย่างสิ้นเชิง งานวิจัยมากมายที่พบว่าทั้งปัจจัยที่ 1 และ 2
สามารถยับยั้งหรือชลอความเหี่ยวย่นของผิวหนังได้ด้วยวิธีต่าง ๆ

    การใช้ครีมกันแดด ทาให้ทั่วผิวหน้าก่อนการอาบแดดหรือโดนแดดจัด ๆ แรง ๆ จะช่วยปกป้องผิวหน้าได้มาก ส่วนการชลอความเหี่ยวย่น อันเกิดจากอายุที่มากขึ้นนั้นจำเป็นต้องดูแลด้วยวิธีต่าง ๆ พร้อม ๆ กัน ไม่ใช่เพียงการใช้เครื่องสำอางอย่างเดียว เช่น ลดความเครียดในชีวิตประจำวัน เพราะความเครียดทำให้เส้นเลือดใต้ผิวหนังหดตัว เซลผิวจะเสื่อมไวเพราะขาดสารอาหารที่จำเป็น ผิวหนังจำเป็นต้องได้รับความชุ่มชื้นให้มาก เพื่อให้เซลผิวเต่งตึงและมีความยืดหยุ่น

      สารที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว กระตุ้นการสร้างเซลใหม่และเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวหนัง
ซึ่งได้ผ่านการวิจัยมีมากมาย เช่น ว่านหางจระเข้ (อโลวีร่า) วิตามินอี วิตามินเอ กรดไขมัน กรดผลไม้
สารคอลลาเจนและอีลาสติน คิว-10 กรดไขมัน กรดผลไม้และสารต้านอนุมูลอิสสระต่าง ๆ
รวมถึงสมุนไพรหลากชนิดปัจจัยสำคัญที่เราควรทราบคือ ทำอย่างไรไม่ให้ผิวหนังสูญเสียความชุ่มชื้นมากเกินไป เพราะนั่นคือ สาเหตุหลักที่ทำให้ผิวหนังเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัย ผู้ที่นอนในห้องแอร์ ทำงานในห้องแอร์ อากาศในห้องจะแห้งมาก ผิวหนังจะสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่ายและรวดเร็ว
และผู้ที่ใช้สารทำความสะอาดที่มีฟองมาก ๆ จะทำให้ผิวหนังแห้งมาก หลังอาบน้ำจึงควรใช้ครีมบำรุงผิว
ซึ่งโดยทั่วไปจะประกอบไปด้วยน้ำมัน น้ำ และสารที่ให้ความชุ่มชื้นต่อผิว เนื้อครีมบำรุงจะช่วยเคลือบผิวหนัง ลดการสูญเสียความชุ่มชื้นของผิวหนังสู่บรรยากาศได้มาก

          เครื่องสำอางจะเหมือนแฟชั่นเสื้อผ้าของผู้หญิง ที่จะมีการวิจัยค้นคว้าเพื่อให้เกิดสินค้าใหม่ ๆ
เป็นการแข่งขันกันในเชิงการตลาด สารใหม่ ๆ เหล่านี้ทำให้ผู้บริโภคตื่นเต้นแต่สับสน
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ ผู้บริโภคจะพบความจริงว่าเครื่องสำอางเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันกันสูงมาก
ผู้ผลิตและนักวิจัยจึงพยายามหาสารใหม่ ๆ ที่พอจะเป็นประโยชน์ต่อผิวหนังมาเป็นพระเอกและนางเอก
ซึ่งความนิยมและราคาก็เปลี่ยนไปตามยุคสมัย

ดังนั้นผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องตื่นเต้นมากกับสารใหม่ ๆ ที่มีการโฆษณา แต่ควรพิจารณาการดูแลร่างกายและผิวหนังเราเองโดยหลักการสำคัญ ๆ ตามที่ให้คำแนะนำในตอนต้นแล้ว การใช้เครื่องสำอางบำรุงผิวจะสามารถช่วยลดและชลอความเสื่อมของผิวหนังได้จริงไม่ต้องสงสัย แต่ควรจะใช้ควบคู่กับการออกกำลังกาย เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของระบบเลือดในร่างกาย และการรับประทานอาหารที่เหมาะสม
หากใช้เครื่องสำอางราคาแพงที่คิดว่าดีและได้ผลแต่ไม่ดูแลร่างกายและจิตใจก็คงจะไม่เกิดผล

แหล่งอ้างอิง ฉลาดซื้อ ฉบับที่ 48
โดย รศ.ดร.พิมลพรรณ พิทยานุกูล

ไม่มีความคิดเห็น: