14 เม.ย. 2554

ความลับของมือและเล็บสวย



     ถ้าทุกวันนี้คุณโหมกระหน่ำใช้งานมือกันแบบไม่ยั้งคิด
ถึงเวลาหรือยังที่จะใส่ใจดูแลมือและเล็บให้มีสุขภาพดีกันเสียที
ไม่ต้องถึงกับตามติดเทรนด์แฟชั่นกันให้เหนื่อยใจ แค่รู้จักบำรุงมือและเล็บให้เนียนสวยน่าสัมผัส
แค่นี้คนที่เขาได้จับหรือกุมมือคุณก็แสนจะสุขใจแล้วล่ะค่ะ

มาดูแลเล็บกันก่อน

ไม่ ต้องแวะเวียนเข้าไปเสียสตางค์ในร้านทำเล็บอยู่บ่อยๆ หากพอจะมีวิชาติดตัวกับเขาบ้าง
นี่คือกรรมวิธีง่ายๆ ที่คุณก็สามารถดูแลเล็บมือและเล็บเท้าด้วยตัวเองที่บ้านได้

อุปกรณ์
* น้ำมันหอมระเหย
* ผลิตภัณฑ์ขัดผิว
* โลชั่นบำรุงผิว
* น้ำยาล้างเล็บ
* ไม้ส้ม
* คอตต้อนบัด
* น้ำมันหอมระเหย


ขั้นตอนดูแลมือและเท้า

step 1
เช็ดยาทาเล็บออกให้หมด โดยการใช้น้ำยาล้างเล็บแบบปราศจากอาซิโตน
นอกจากจะช่วยให้สีของยาทาเล็บหลุดออกได้ง่ายแล้ว ยังไม่ทำให้ผิวเล็บเกิดอาการระคายเคืองอีกด้วย
ล้างเล็บด้วยการม้วนสำลีเป็นก้อนกลมจุ่มน้ำยาล้างเล็บแล้วค่อยๆ เช็ดจนสียาทาเล็บหลุดออกหมด
อย่าใช้สำลีแบบแผ่น เพราะจะทำให้ผิวเราสัมผัสกับน้ำยาล้างเล็บโดยตรง และอาจเกิดอาการระคายเคืองได้

step 2
ตกแต่งเล็บด้วยการตัดเล็บให้ได้รูปร่างเล็บสวยอย่างที่ต้องการ แต่อย่าตัดให้สั้นจนเกินไป
เพราะถ้าตัดสั้นจนติดเนื้อด้านในของเล็บแล้ว เวลาหยิบของหรือทำอะไรอาจรู้สึกเจ็บได้
เพราะเนื้อใต้เล็บค่อนข้างไวต่อความรู้สึก ควรตัดให้เห็นเนื้อเล็บสีขาวสัก 2 มิลลิเมตร
หรือถ้าอยากไว้เล็บยาวก็ไม่ควรยาวเกิน 1 ใน 3 ของเล็บทั้งหมด

step 3
การตัดเล็บให้ได้รูปทรงที่เหมาะกับฐานเล็บจะดีที่สุด สำหรับคนที่มีฐานเล็บค่อนข้างตรง
ให้ตัดรูปเล็บออกแนวสี่เหลี่ยม แต่ถ้าฐานเล็บค่อนข้างมนให้ตัดเป็นรูปทรงไข่จะเข้ากันที่สุด

step 4
จากนั้นลบเหลี่ยมมุมที่แหลมให้มนขึ้นด้วยการตะไบเล็บ ให้เลือกแบบเซรามิคจะดีกว่าแบบโลหะ
แต่อย่าพยายามให้โดนหนังกำพร้ารอบๆ เล็บเพราะอาจจะทำให้เกิดอาการอักเสบหรือเจ็บได้

step 5
แช่มือในน้ำอุ่นสัก 2-3 นาที ส่วนเท้าสัก 5 นาที หยดน้ำมันหอมระเหยลงไปในน้ำ
เพื่อความหอมและช่วยให้ผิวนุ่มเนียน ใช้เกลือขัดผิวเพื่อขจัดเซลผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก
หรือถ้ารู้สึกว่าเกลือทำให้แสบผิวจนเกินไป เปลี่ยนมาใช้น้ำมะขามเปียกในการขัดผิวแทนก็ได้

ส่วนบริเวณส้นเท้านั้น ควรเน้นเป็นพิเศษด้วยการใช้หินภูเขาไฟ
ขัดผิวหนังบริเวณที่ค่อนข้างหยาบกร้านให้หลุดออกทำอาทิตย์ละครั้ง
ผิวหนังที่หยาบกระด้างบริเวณส้นเท้าจะค่อยๆ กลับมาเนียนนุ่มอีกครั้ง

step 6
ใช้คีมตัดหนังกำพร้าที่ชี้ๆ ออกมาให้เรียบร้อย จากนั้นบำรุงหนังกำพร้ารอบๆ เล็บด้วยการใช้ออยล์บำรุงโดยเฉพาะ
แต่ถ้าไม่มีให้ใช้เบบี้ออยล์แทนก็ได้ จากนั้นใช้ไม้ส้มที่พันสำลีไว้เรียบร้อยแล้ว ค่อยๆ เช็ดทำความสะอาดซอกเล็บ
หรือบริเวณหนังกำพร้ารอบเล็บ พร้อมกับดันหนังกำพร้าบริเวณนั้นให้เข้าที่จนดูเรียบสวย
เป็นการตกแต่งให้หนังกำพร้าบริเวณที่สั้นมาก และตัดไม่ได้ให้เข้าที่เข้าทาง แล้วทาโลชั่นบำรุงมือและเล็บอีกครั้ง

step 7
นวดมือและเท้าให้ตัวเอง ปรนเปรอมือและเท้าของคุณด้วยโลชั่นผสมวิตามินอี
ค่อยๆ นวดจากฝ่ามือแล้วไล่ลงมาที่นิ้วแต่ละนิ้วจนครบ โดยนวดทั้งสองข้างอย่างเบามือ
เพื่อที่จะให้วิตามินอีค่อยๆ ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างเต็มที่

step 8
ใช้ แปรงขัดเล็บแตะแป้งเนื้อหยาบ ขัดเบาๆ ที่ผิวเล็บ เป็นการขจัดน้ำมันบนผิวเล็บให้หลุดออก
หลังขัดแล้วเล็บจะมีความมันวาว เป็นการเตรียมเล็บก่อนทาน้ำยารองพื้น

step 9
ทาน้ำยารองพื้นลงบนเล็บเพื่อสร้างความแข็งแรงให้เล็บก่อนการทาเล็บ จะช่วยให้การทาเล็บเนียนสวยได้ไม่ยาก
แต่ระวังอย่าให้เกิดฟองอากาศ จะทำให้ผิวเล็บไม่เรียบทาเพียงครั้งเดียวก็พอ

step 10
เลือกสียาทาเล็บที่ต้องการ ค่อยๆ ทาให้เรียบ ให้ขนแปรงแบะออกเล็กน้อย ทำมุมกับผิวเล็บประมาณ 45 องศา
รอให้แห้งจากนั้นทาทับซ้ำอีกครั้ง เพื่อความเนียนสวยของสี และอย่าทากลับไปกลับมา

step 11
ทาท๊อปโค้ทเพื่อช่วยปกป้องสียาทาเล็บ และยังช่วยเคลือบเล็บให้เล็บสวยเป็นประกายสดใส มีสุขภาพดี


Do you know?

ทรีตเม้นท์สำหรับมือที่มีริ้วรอยเหี่ยวย่นมาก

สาวทำงานบ้านตัวจริงที่ต้องสัมผัสกับน้ำหรือการซักล้างตลอดเวลา มือคุณจะดูเหี่ยวย่นมีริ้วรอยนับไม่ถ้วน
แถมมือยังหยาบไม่อ่อนนุ่มน่าสัมผัสอีกต่างหาก ถึงเวลาที่จะดูแลมือกันอย่างจริงจังเสียที
ด้วยกรรมวิธีเพื่อทำให้มือของคุณกลับมาสวยปิ๊งดังเดิม

* ขัดผิวมือให้เรียบเนียน ด้วยสครับขัดผิวที่มีส่วนผสมของเกลือขัดผิว
จะช่วยขจัดเซลผิวที่แห้งและหยาบกร้านให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน

* จากนั้นล้างมือและเช็ดให้สะอาด แล้วมาบำรุงมือด้วยออยล์หรือน้ำมันอะโวคาโด
ที่ช่วยให้มือที่แห้งหยาบกลับมีน้ำมีนวลเพิ่มขึ้น

ข้อมูลโดย : นิตยสาร Hair ฉบับภาษาไทย
ที่มา : http://lifestyle.th.msn.com/

ไม่มีความคิดเห็น: