14 เม.ย. 2554

การลองใจเป็นบาปไหม



ถาม ถ้าไม่ได้ตั้งใจแกล้งใครจริงๆ แต่ทำไปเพราะอยากลองใจว่าเขาเย็นจริงไหม
หรือถือศีลสะอาดหมดจดจริงหรือเปล่า อย่างนี้จะถือเป็นบาปเวรไหมครับ?


คนเราถ้ายังไม่ใช่คนใจดีมีศีลสัตย์บริสุทธิ์ ก็อาจบอกตัวเองว่าแกล้งลองใจเขา
ทั้งที่ใจก็จะเล่นงานเขาจริงๆ นั่นแหละครับ ดูง่ายๆ พอลองใจแล้วเห็นเขาไม่ดีจริงก็เกิดความสะใจ
เกิดความดูหมิ่นเหยียดหยามทำนองว่า อ้าว! ไม่แน่นี่นา ไหนว่าเจ๋ง เสร็จแล้วก็ไปเสริมอัตตาตัวเองให้โตขึ้น พองขึ้นด้วยความคิดว่าตนเหนือกว่าเขา ที่ทำให้เขาหลุดท่าร้ายๆ ออกมาสำเร็จ
คือมองไปว่าตนเองดีเลิศประเสริฐกว่า เข้าใจโลกมากกว่า รู้เห็นรอบด้านมากกว่า อะไรทำนองนั้น
นี่แหละความเป็นไปได้ที่กิเลสจะบิดเบือนความจริงให้เพี้ยนไป อยากแต่พิสูจน์ใจคนอื่น ใจตัวเองไม่ต้องพิสูจน์ก็ตัดสินเลยว่าดีแท้ ผลของการลองใจที่ชัดเจนประการหนึ่ง คือตัวเองจะโดนลองใจกลับบ้าง
เพียงแต่ผู้ลองใจไม่ใช่คนอื่นที่ไหน ทว่าเป็นธรรมชาติกรรมวิบากนั่นแหละครับ
ทำนองคุณเคยเตะคนอื่นอย่างไร ธรรมชาติกรรมวิบากก็จะเตะคุณกลับอย่างนั้น
คุณจะเต็มใจให้เตะหรือไม่ก็ต้องโดนวันยังค่ำ

โดยส่วนตัว ผมไม่นิยมการลองใจ และไม่เห็นเหตุจำเป็นใดๆ ต้องไปลองใจ
เพราะขณะคิดลองใจ เราเองจะเริ่มมีตัวมุสาโผล่ขึ้นมาเล็กๆ แล้ว
และถ้าคนอื่นเขารู้ว่าเราแกล้งพูดแกล้งทำเพื่อลองใจ เขาก็อาจเสียความรู้สึก
และอาจระแวดระวังเราแทบทุกฝีก้าวตลอดไป เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เราจะนึกขลังลองใจเขาอีก
แต่ละคนอาจมีภาระหน้าที่หรือความจำเป็น อันนี้ผมก็ไม่ทราบนะครับ
อย่างเช่นการสัมภาษณ์คนเข้าทำงานยุคใหม่นี่ บางคนเห็นว่านิยมลองใจผู้เข้าสัมภาษณ์ด้วยลูกเล่นแปลกๆ เป็นต้นว่าพูดยั่วให้โกรธ หรือมองหัวจดเท้าแล้วหัวเราะหึหึตลอดเวลา
ดูซิว่าผู้เข้าสัมภาษณ์จะเก็บอาการได้เพียงใด หรือเกิดปฏิกิริยาฮึดฮัดสักขนาดไหน
ถ้าจำเป็นก็ทำไปเถอะครับ แต่ขอให้สังเกตด้วยว่าความจำเป็นต้องทำกรรมชนิดนั้นบ่อยๆ จะมีผลย้อนกลับมาเข้าตัวบ้างหรือไม่

หลักของกรรมวิบากข้อหนึ่งนะครับ
ทำอะไรบ่อยๆ สิ่งนั้นต้องย้อนมาสนองคืนในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งเสมอ โดยไม่สนข้ออ้าง
เพราะฉะนั้นก็อยากให้นักลองใจทั้งหลายเตรียมตัวเผื่อไว้ คือเราลองใจเขาได้ วันหนึ่งก็ต้องโดนลองใจคืน ซึ่งอาจไม่ใช่เจ้าตัวคู่กรณีที่เราไปลองใจเขา แต่อาจเป็นอะไรโหดๆ ที่มาถึงตัวแบบไม่เปิดโอกาสให้ตั้งหลัก เหมือนกับที่เราไม่เปิดโอกาสให้คนถูกลองใจตั้งหลักนั่นเอง

โดย ดังตฤณ
จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่ม ๓
ที่มา : http://dungtrin.com/

ไม่มีความคิดเห็น: