26 เม.ย. 2554

วิธีรักษารอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว

บทความนี้จะเป็นเรื่องของสาเหตุทำให้เป็นรอยแดง-ดำหลังจากที่สิวเราหายแล้วพร้อมกับวิธีการดูแลเบื้องต้น เห็นหลายๆคนถามถึงเรื่องนี้กันมากว่าทำไมสิวหายแล้วแต่หน้ายังเป็นรอยแดงอยู่ เลยค้นบทความนี้มาให้อ่านกันและจะได้เข้าใจเกี่ยวกับรอยแดง-ดำที่เป็นที่หน้าเรานะครับ

 


รอยแดง-ดำคล้ำจากผิวอักเสบ คืออะไร
เป็นอาการสีผิวไม่สม่ำเสมอที่เกิดขึ้นเมื่อผิวหายจากการอักเสบ และรวมถึงอาการเหล่านี้ด้วย
-การติดเชื้อที่ผิวหนัง
-อาการแพ้
-อุบัติเหตุ
-ปฎิกิริยาจากการใช้ยา
-อาการแพ้ยาที่ผิวหนังโดยมีปฎิกิริยาจากแสงแดดร่วมด้วย
-แผลบาดเจ็บ (เช่นผิวไหม้)
-ปฎิกิริยาจากการอักเสบ (เช่นสิว, ผิวหนังอักเสบ)
รอยแดง-ดำคล้ำที่เกิดขึ้นนี้จะอยู่ในบริเวณที่เกิดการบาดเจ็บที่รักษาหายแล้ว จะมีสีตั้งแต่น้ำตาลอ่อนไปจนถึงดำ สีที่ดำคล้ำขึ้นเนื่องจากเผชิญกับแสงแดด (รังสียูวี) การใช้ยารักษาบางอย่างก็อาจทำให้สีผิวคล้ำขึ้น เช่นยาต้านเชื้อมาลาเรีย, ยารักษาโรคเรื้อน, เตตร้าไซคลิน, ยาต้านมะเร็งเช่น bleomycin, doxorubicin, 5-fluorouracil และ busulfan
รอยดำคล้ำนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่จะเกิดได้มากกว่าในคนที่มีผิวคล้ำ อาการเหล่านี้จะเห็นได้ขัดเจนมากขึ้นเมื่อสัมผัสกับแสงแดด ตัวอย่างของอาการเหล่านี้เช่น การสัมผัสกับพิษของพืชบางชนิดแล้วแพ้
สาเหตุของการเกิดรอยคล้ำจากผิวอักเสบ
เกิดจากการผลิตเม็ดสีในบริเวณที่เป็นแผลอักเสบซ้ำๆในขั้นตอนที่ผิวทำการรักษาแผลนั้น อธิบายกันอย่างละเอียดก็คือ เมลาโนไซท์ทำหน้าที่ผลิตเมลานินมากขึ้น (เมลานินคือเม็ดสีผิว) ซึ่งจะแพร่ไปยังเคราติโนไซท์รอบ ๆ (เคราติโนไซท์ คือเซลล์ผิว) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มความผิดปกติของเม็ดสีผิว (hypermelanosis) ชั้นหนังกำพร้า
อีกสาเหตุหนึ่งคือความผิดปกติของเม็ดสีผิวในชั้นหนังแท้ เม็ดสีผิวที่เกิดที่ชั้นลึกลงไป จะเกิดขึ้นเมื่อการอักเสบนั้นกระจายลงไปถึงขอบเขตสุดท้ายของชั้นหนังกำพร้า ทำให้เกิดเม็ดสีผิวขึ้นที่ชั้นผิวที่อยู่ติดกับหนังกำพร้า (ชั้นบนสุดของชั้นหนังแท้)การเกิดภาวะอักเสบที่ชั้นผิวหนังกำพร้า (ชั้นนอกสุดของผิวหนัง) ที่ตอบสนองจากการบาดเจ็บหรือเป็นแผล มีผลให้ผิวหลั่งและทำปฎิกิริยากับกรดอะราชิโดนิค (arachidonic) ไปยัง prostaglandin
ยากินกลุ่มโลคูเทรียน (leukotriene) และผลิตภัณฑ์อื่น ๆที่ใกล้เคียงกันนี้จะไปปรับเปลี่ยนการทำงานของภูมิคุ้มกันเซลล์ และเมลาโนไซท์และทำให้เกิดรอยแดง รอยดำได้เช่นกัน

วิธีการรักษารอยดำคล้ำจากผิวอักเสบ
โดยปกติแล้วจุดด่างดำบนผิวจะค่อย ๆ จางลงและกลับเป็นสีผิวปกติได้ต้องใช้เวลา ซึ่งกระบวนการต่าง ๆ นั้นอาจใช้เวลานานถึง 6-12 เดือน หรืออาจนานถึง 2 ปีในบางรายก็เป็นได้ ผู้ป่วยควรจะได้รับการแนะนำให้ใช้ครีมกันแดดที่มีคุณภาพดีเป็นประจำทุกวันเมื่อต้องเผชิญแสงแดดเพื่อ
ป้องกันจุดด่างดำนั้นไม่ให้คล้ำขึ้นกว่าเดิม
ผลิตภัณฑ์ที่ใช้รักษาภายนอกมีมากมายที่จะช่วยให้ขาวขึ้น หรือฟอกสีจุดด่างดำที่ชั้นหนังกำพร้าได้ ส่วนใหญ่แล้วให้ผลดี แต่หากรักษาร่วมกันกับวิธีการต่าง ๆ ที่แนะนำด้านล่างนี้ก็จะให้ผลที่ชัดเจนมากขึ้น
-Hydroquinone
-Tretinoin Cream
-Corticosteroid creams
-AHA
-Azelaic acid
-Applecider Vinegar
-Laser
-Gylcolic acid peel
วิธีการรักษาต่าง ๆ เหล่านี้ไม่สามารถรักษาความผิดปกติของเม็ดสีผิวที่ชั้นหนังแท้ได้
การแต่งหน้าเพื่ออำพรางเทคนิคการใช้เมคอัพก็สามารถใช้เพื่อปกปิดอำพรางจุดด่างดำของผิวได้ โดยไม่ทำลายผิว

Reference
- dermnetnz.org
-  iscid.org
- visualdxhealth.com
เรียบเรียงและแปลโดย Acnethai.com

ไม่มีความคิดเห็น: