21 เม.ย. 2554

โรคเกลียดตัวเอง

เชื่อไหมว่ามีคนที่ “เกลียดชังตัวเอง” อยู่มากในสังคมโดยที่เขาไม่รู้ตัวและคนอื่นๆ ก็ไม่ทันคิด ผมใช้คำว่าเกลียดชังตัวเองเพื่อลงน้ำหนักให้ชัดเพราะคนพวกนี้ไม่ใช่เพียงแต่ไม่รักตัวเองเท่านั้น แต่เขายังเกลียดและชังตัวเองอย่างลึกซึ้งด้วย
ความรู้สึกเกลียด และชัง ตัวเองนี้ฝังรากลึกลงไปสู่จิตใต้สำนึกและโผล่เป็นนิสัยหรือบุคลิกภาพโดยมองเห็นได้ชัดเจน
ลักษณะของคนที่เป็นโรคเกลียดชังตัวเองนั้นได้แก่
1. โกรธง่าย ขี้โมโห มักแสดงความก้าวร้าวหรือทำร้ายคนอื่นๆ ได้ง่ายๆ เป็นเพราะเขาเกลียดชังตัวเอง ไม่คิดว่าจะทำตัวเองให้น่ารักหรือมีความเป็นสากล เวลาโกรธเขาจะปล่อยอารมณ์และแรงขับของความก้าวร้าวให้แสดงออกมาเต็มที่ โดยไม่มีสติหรือคุณธรรมคอยยับยั้ง พฤติกรรมการแสดงความก้าวร้าวมักเกินเหตุผล เข้าข่ายหยาบคาย หรือเถื่อน เพราะไม่เกรงกลัวแม้กฎหมาย หรือกฎเกณฑ์สังคมใดๆ
เมื่อแสดงความก้าวร้าวไปแล้ว บางคนรู้ตัว รู้สึกอาย แต่ก็ปกปิดตัวเองโดยโทษคนอื่นว่าเป็นฝ่ายผิด ไม่คิดจะแก้ไขตัวเอง เข้าข่ายไหนๆ เลวแล้วก็เลวสุดๆ ไปเลย
ผู้อ่านบางท่านคงมีคำถามว่า ผู้ที่โกรธง่ายแสดงอารมณ์โกรธแบบหยางคายนี้น่าจะเป็นคนที่รักตัวเอง ทำไมจึงบอกว่าเขาเกลียดชังตัวเองเล่า ขออธิบายว่าคนที่รักตัวเองจะดูแลตัวเอง ไม่นำตัวเองไปแปดเปื้อนกับสิ่งสกปรก เปรียบเช่นคนใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ ใส่รองเท้าขาวคู่ใหม่ เขาจะรักตัวเองและรักรองเท้าขาว เขาจะเดินอย่างระวัง ไม่ไปเหยียบโคลนหรือเอาเท้าไปเตะก้อนหิน
แต่ถ้าเขาคิดว่าไม่มีค่า ไม่น่ารัก เริ่มเกลียดตัวเองแล้ว ก็เหมือนคนใส่รองเท้าเก่าแล้วสกปรก จะเดินแบบไม่ระวัง พร้อมจะย่ำโคลนสกปรก หรือเดินไปเตะก้อนหินโดยไม่แคร์ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
2. ระแวง ขี้หึง และขี้อิจฉา ที่ระแวงเป็นเพราะคิดว่าตัวเองไม่มีค่า คงไม่มีใครชอบอาจจะมีคนมาทำร้าย ถ้าระแวงแฟนมีชู้หรือขี้หึงแฟน ก็เพราะคิดว่าตัวเองไม่มีค่า แฟนแฟนจึงน่าจะนอกใจไปรักคนอื่นได้
พวกมีนิสัยอิจฉาก็เช่นกัน มักคิดว่าตัวเองไม่มีค่าพอ เห็นใครได้ดีกว่าก็อิจฉาเขาแทนที่จะรู้สึกยินดี อยากเอาแบบอย่างและทำตัวให้ดีขึ้น ความคิดที่คิดบ่อยๆ ว่าตัวเองไม่มีค่านี่แหละที่ทำให้เขา “เกลียดชังตัวเอง” มากขึ้น
3. พูดหยาบคาย กิริยาหยาบกระด้างด้วยแนวคิดแบบเดียวกันคือ คิดว่าตัวเองไม่มีค่าสิ่งอื่นๆ ก็ไม่มีค่าด้วย จึงปล่อยให้ลักษณะของสันดานดิบ หยาบคาย หยาบกระด้างแสดงออกมาได้ตามสบาย
4. มีปมด้อย คนที่มีปมด้อยคือคนที่คิดถึงตัวเองในแง่ลบ โดยที่คนอื่นๆ อาจนึกไม่ถึงเช่น บางคนนึกถึงประวัติครอบครัวที่ต่ำต้อย หรือการกระทำที่ผิดพลาดในอดีตนึกถึงลักษณะด้อยของร่างกาย (เช่น ไม่สวย ไม่หล่อ พิการ หรือในผู้ชายที่มีอวัยวะเพศเล็ก) หรือสถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคมที่ไม่ชอบ (เช่น จนหรือเป็นลูกเมียน้อย)
เมื่อคิดถึงปมด้อยทุกครั้งก็จะรังเกียจและเกลียดตัวเองทุกครั้งไป ถ้ามีใครมาพูดกระทบปมด้อยโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็จะสะเทือนหรือโกรธอย่างรุนแรง
5. คุยโอ้อวด พฤติกรรมยกตน ทั้งที่มีดีจริงหรือไม่มีดีแต่คุยมาก
ในคนที่มีดีเช่น รวยหรือเก่งอยู่แล้ว แต่เขาจะมีความรู้สึก “ไม่พอ” กับความดีและความเก่งของเขา ทำให้ต้องพูดโอ้อวดและยกตนข่มคนอื่นเสมอ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่ามีดีจริงแต่ยิ่งพูดหรือยิ่งทำพฤติกรรมยกตนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งไปกระตุ้นที่ว่าตนเอง “มีดีไม่พอ” มากเท่านั้นทำให้ไม่สามารถชื่นชมตัวเองได้จริงๆ แต่จะรู้สึกไม่พอใจตัวเองที่มีเท่าไหร่ก็ไม่ได้ดังใจ…เลย
ส่วนพวกที่ไม่มีดีจริง แต่พูดโอ้อวด ยกตนนั้นยิ่งน่าสงสารยิ่งขึ้น เพราะต้องปลอมตัวเองตลอดเวลา ทำให้เหนื่อย เครียด และไม่เคยพอใจตัวเองจริงๆ ได้เลย เพราะยอมรับตัวเองตามความจริงไม่ได้ จะยิ่งเกลียดตัวเองมากขึ้นที่พูดแสดงตนโอ้อวดไปแล้วก็ไม่เคยได้ดังใจสักครา
คนที่ชอบคุยโอ้อวด หรือมีพฤติกรรม “เวอร์” ยกตนนี้ มักเป็นพวกที่มีปมลึกในใจ กลัวคนจะเห็นสิ่งที่ต่ำต้อย (ที่ตัวเองรู้และเห็นอยู่) จึงชอบคุยอวดและมีพฤติกรรมโอ้อวดทุกอย่าง ทั้งอวดรวย อวดเก่ง อวดสวย อวดหล่อ รวมทั้งอวด(ความ)ดี ดังที่พบกันมากขึ้น
6. พูดถึงแต่ตัวเอง น้อยใจตัวเอง ทำตัวน่าเบื่อ บางคนชอบบ่นเรื่องส่วนตัวและความทุกข์ของตัวเองให้คนอื่นฟังซ้ำๆ เช่น ความล้มเหลว โชคร้าย เคราะห์กรรม รวมทั้งเรื่องส่วนตัวอื่นๆ ที่ไม่ดี และดูเหมือนได้ระบายความทุกข์แต่นับเป็นการแช่งตัวเอง หรือใส่ความคิดที่ไม่ดีกับตัวเองซ้ำๆ ลงไปในจิตใต้สึกนึก จนทำให้ทั้งตัวเองและคนที่รับฟัง เชื่อว่าคนๆ นี้เป็นอย่างที่เขาบ่นซ้ำๆ จริงๆ เขาจะแลดูเป็นคนน่าเบื่อ น่าเวทนา คนอื่นๆ ไม่อยากคุยด้วย
คนที่พูดถึงตัวเองบ่อยๆ มักรักตัวเองไม่ลง เพราะเชื่อว่าตัวเองไม่ดีดังที่บ่นซ้ำๆ ไปแล้ว
7. คิดถึงแต่ตัวเองว่าถูกเอาเปรียบ คนพวกนี้มักเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของความอยากได้เปรียบ อยากเป็นผู้รับ หรือได้เปรียบตลอดเวลา ถ้าจะต้องเสียเปรียบหรือเสียรู้คนบ้างก็ทนไม่ได้ ด้วยความคิดว่าตัวเองถูกเอาเปรียบตลอดเวลา ถ้าจะต้องเสียเปรียบหรือเสียรู้คนบ้างก็ทนไม่ได้ ด้วยความคิดว่าตัวเองต้องถูกเอาเปรียบตลอดนี้ ทำให้ไม่รักคนอื่น ไม่ภูมิใจตัวเองจะเกลียดตัวเองว่าทำไม…โง่จัง หรือไม่น่าเสียรู้คนอื่นเลยนะ
โรคเกลียดชังตัวเองนี้ พบได้มากขึ้นในสังคมทุกวัน หลายคนมีความทุกข์มาก มีผู้ทุกข์มาก มีผู้ทุกข์มาปรึกษาหลายราย ทั้งที่มาเองหรือพ่อแม่และคู่สมรสแนะนำมาหา
ไม่มีใครรักตัวเรา…เท่าตัวเราเองหรอก จึงควรเรียนรู้ที่จะ “รัก” ตัวเองให้ได้ตามความเป็นจริง จะได้ไม่ต้องมาเกลียดชังตัวเองจนมีความทุกข์และมีพฤติกรรมดังกล่าวแล้ว
ลองๆ สำรวจๆ ตัวท่านเองซิว่าขณะนี้มีคนเกลียดชังตัวเองอยู่รอบตัวท่านสักกี่คน… อาจจะรวมตัวท่านเองด้วยก็ได้

ที่มา...http://www.elib-online.com/doctors50/mental_self001.html

ไม่มีความคิดเห็น: