11 พ.ค. 2554

วงจรชีวิตของสิว

วงจรชีวิตของสิว

วงจรชีวิตของสิว
มีบทความจำนวนมากมายที่อธิบายเกี่ยวกับการก่อตัวของสิว แต่ละบทความนั้นยากเกินกว่าจะเข้าใจ

เริ่มตั้งแต่ต่อมไร้ท่อ ในผู้ชายคือลูกอัณฑะ และในผู้หญิงคือรังไข่ ซึ่งฮอร์โมนที่ถูกสร้างขึ้น และเป็นสาเหตุของปัญหา นั่นก็คือ ฮอร์โมนแอนโดรเจน

แอนโดรเจนเป็นฮอร์โมนที่ทำหน้าที่บ่งบอกลักษณะเพศชาย และที่รู้จักกันมากก็คือ เทสโทสเตอโรน ซึ่งไม่เพียงมีในผู้ชายเท่านั้น แต่มีในผู้หญิงด้วย
แอนติ-แอนโดรเจนิค สเตียรอยด์ เป็นสิ่งที่ทั้งหญิงและชายจะต้องมี ได้แก่ พละกำลัง, ความหนาแน่นของกระดูก, ความต้องการทางเพศ และระบบภูมิคุ้มกันที่ถูกสร้างโดย เทสโทสเตอโรน ซึ่งในผู้ชายจะมีปริมาณมากกว่าผู้หญิงประมาณ 30 เท่า แอนโดรเจนจะอยู่ในเลือด และดำเนินไปอย่างช้า ๆ จนกระทั่งเข้าไปถึงบทที่สองของเรื่องนี้ Pilosebaceous unit. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรูขมขน และต่อมไขมัน ดังภาพ


อะไรเป็นปัจจัยให้เกิดความแตกต่างของสิวในแต่ละคน

ในคนที่เป็นสิวนั้นพบว่าไม่ได้มีแอนโดรเจนมากกว่าผู้ที่ไม่เป็นสิว แต่ต่อมไขมันของคนที่เป็นสิวนั้นไวกว่าปกติ ต่อมไขมันตื่นตัวและผลิตซีบั่มมากเกินไป ที่หน้าอก, หลัง และใบหน้า พบว่ามีจำนวนของต่อมไขมันมาก หน้าที่หนึ่งของซีบั่มคือการส่งเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้ออกไปจากท่อขุมขน แต่หากรูขุมขนเต็มไปด้วยซีบั่ม ขั้นตอนนี้ก็จะไม่สามารถทำได้ รูขุมขนของคุณถูกขัดขวางและอุดตันในที่สุด
ดังนั้นจึงจะเห็นได้ว่า ความสกปรกและน้ำมันบนผิวไม่ใช่ตัวการของสิว แต่เป็นน้ำมันที่อยู่ใต้ผิวต่างหาก
น้ำมันที่ถูกกักและเซลล์ผิวที่ตายแล้วก่อให้เกิดความข้นเหนียวที่มีประสิทธิภาพในการอุดตันรูขุมขน ซึ่งเรียกว่า ไมโครคอมีโด เมื่อความเหนียวข้นเพิ่มขึ้นก็จะทำให้สามารถมองเห็นได้ ซึ่งจะเรียกว่า คอมีโด หรือที่เรียกกันว่าสิวอุดตัน หรือสิวเสี้ยน





สิวอุดตันและสิวเสี้ยนนั้นค่อนข้างเล็ก แต่ก็จะมีคำถามว่าทำไมบางอันใหญ่
ในกรณีนี้เกิดจากแบคทีเรียเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการ เราเรียกแบคทีเรียตัวนี้ว่า P.Acne ซึ่งเป็นตัวการสุดท้าย แบคทีเรียตัวนี้ปกติอาศัยอยู่บนผิวหน้าของทุกคนอยู่แล้ว แต่หากว่ารูขุมขนไม่อุดตันมากพอที่จะให้แบคทีเรียอยู่ได้ก็จะไม่เป็นปัญหา เมื่อแบคทีเรียจับตัวกัน ก็จะเกิดการอักเสบขึ้น แล้วก็จะเกิดสิวอักเสบตามมา



P.Acne ไม่สามารถกินซีบั่มเป็นอาหารได้โดยตรง แต่จะผลิตเอนไซม์ชื่อ Lipase ซึ่งจะเปลี่ยนซีบั่มเป็นกรดไขมันที่สามารถกินเป็นอาหารได้ จุดนี้เองที่ร่างกายเริ่มมีปฎิกิริยาต่อต้าน กรดไขมันจะรบกวนเนื้อเยื่อ ร่างกายก็จะสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อกำจัดสิ่งรบกวน

เซลล์เม็ดเลือดขาวและเซลล์เม็ดเลือดแดงจะถูกส่งออกไปเพื่อต่อสู้ เซลล์เม็ดเลือดขาวจะทำงานโดยการกลืนกินแบคทีเรีย ตุ่มหนองสีขาวที่เห็น เกิดจากการกลืนกินแบคทีเรียของเซลล์เม็ดเลือดขาว



เซลล์เม็ดเลือดแดงทำหน้าที่เสมือนรถไฟ ที่วิ่งเข้ามาชน ความเข้มข้นของเซลล์เม็ดเลือดแดงทำให้เกิดการอักเสบReference
- acnetreatmentinfo.org
- teenwire.com
เรียบเรียงและแปลโดย Acnethai.com

ไม่มีความคิดเห็น: